พระนางทรงเป็น เจ้าหลวง
พระองค์ที่ 10 แห่งราชวงศ์ล้านตื้อ
ซึ่งมีอำนาจเหนือ ราชอาณาจักรหริกุญชร
พระองค์ทรงมีความเก่งกาจในเรื่อง การรบทัพจับศึก ยิ่งกว่า
กษัตริย์แห่งอาณาจักรอื่น ณ ที่ราบสูง พุกามประเทศ
พระนาง ทรงนิยมชมชอบ การขี่ช้างขี่ม้า และยิงธนู มาตั้งแต่พระชนมายุได้ 10 พรรษา
ผู้ที่มีส่วนในการอบรมให้พระนาง ทรงมีพระนิสัยห้าวหาญ ประดุจชายชาตินักรบ คือ
พระราชบิดาในพระนาง ซึ่งทรงกำเนิดมาจากถิ่นของชนชั้นขุนนาง ที่ควบคุมฝ่ายคชบาล
เดิมทีนั้น เจ้าหลวงพระองค์ก่อน หาใช่ได้สืบพระสันตติวงศ์ตามลำดับ
เหตุเพราะเจ้าผู้ครองนครแห่งนี้ ไร้สามารถอ่อนแอ
จึงถูกประเทศอื่น เข้ามากระทำย่ำยี ทำให้มีอันต้องป่นปี้ย่อยยับดับสูญ
แต่ คนเก่งและคนดี ยังมิสิ้นแดดิ้นไปตาม
ดังนั้น พรรคพวกเหล่าขุนนาง ภายใต้แกนนำของ “ขุนคชาพัฒน์”
จึงพร้อมใจกันลุกฮือ กอบกู้เอกราชกลับคืน
เมื่อได้ชัยชนะ พระราชบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรหริกุญชร กลับไร้ผู้ครอบครอง
กอปรกับ เจ้าผู้ครองนคร ไม่ทรงได้แต่งตั้ง ผู้ใดให้ดำรงตำแหน่ง “พระอุปราชหอหน้า”
เหล่าข้าราชบริพารในอดีตเจ้าผู้ครองนคร
จึงได้ปราบดาภิเษก “ขุนคชาพัฒน์”
ขึ้นเป็น เจ้าหลวงพระองค์ใหม่ แห่งราชวงศ์ล้านตื้อ สืบไป
ทรงมีพระนาม ว่า
“เจ้าหลวง คชาพัฒน์ ประสิทธิ์ภิรมย์”
เจ้าหลวง ทรงมิมี พระราชโอรส เลยแม้เพียงพระองค์เดียว
จึงต้องทรงแต่งตั้ง พระราชธิดา คือ เจ้านางดาราทิพย์
ขึ้นเป็น “พระอุปราชหอหน้า”
เมื่อทรงมี พระชนมายุได้ 25 พรรษา
เจ้านางดาราทิพย์ ทรงปฏิบัติพระองค์ ตามแบบอย่างเช่นพระราชบิดา
คือ มิได้ทรงถือพระองค์ว่าเป็น “เจ้าเหนือหัว”
แล้วจะสามารถทำการอันใดก็ได้ตามแต่ใจปรารถนา
กลับทรงเป็นเยี่ยงอย่างให้ ข้าราชบริพาร ได้ปฏิบัติตาม
คือ การที่ทรงรักษาพระองค์ให้อยู่ในกรอบของศีลธรรมจรรยา
และจารีตประเพณี อันดีงามทุกประการ
ทรงน้อมนำหลักธรรมของพระพุทธองค์ คือ การรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วนอยู่เสมอ
ทั้งขณะยามปกติสุข หรือแม้ยามที่มีทุกข์ภัยมาเยือน
ข้าราชบริพาร ในพระองค์ ต้องรู้รักสามัคคี และเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์
หากทรงจับได้ว่า ผู้ใดฉ้อฉลกลโกง ภาษีอากร
แม้ว่าผู้นั้นจะมีอำนาจราชศักดิ์สักเพียงใด ก็จะต้องได้รับโทษทัณฑ์
ไม่ต่างจากไพร่ฟ้าสามัญชน คนธรรมดา
นี่คือ การปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และพระราชจริยวัตร อันเที่ยงตรง
ในเจ้าหลวงพระองค์นี้
--------
เจ้าหลวง ดาราทิพย์ ประสิทธิ์ภิรมย์
ทรงนิยมรักษาอุโบสถศีล คือ ศีล 8
ณ หอคำหลวง ในคุ้มเจ้าหลวง
ตลอดพระชนม์ชีพ
ทรงนิยมสวดบท เสริมอำนาจ คือ
“บท มหาอำนาจ” ดังนี้
“เอวัง ราชะสีโห มะหานาทัง
สินาทะนัง สิหะนาเม
สีละเตชะนามะ ราชะสีโห ฯ
อิทธิฤทธิ พระพุทธังรักษา
สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง ฯ
อิทธิฤทธิ พระธัมมังรักษา
สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง ฯ
อิทธิฤทธิ พระสังฆังรักษา
สารพัดศัตรู อะปะราชะยัง ฯ”
เสกน้ำล้างหน้าทุกวันตอนเช้า จะทำให้มีสง่าราศี มีเสน่ห์ เมตตามหานิยม
มีอำนาจเหนือศัตรูที่คิดหมายมาดปองร้ายให้พ่ายแพ้
ด้วยพลานุภาพแห่งพระคาถาบทนี้ วิเศษนักแล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น